ทำไม ผมไม่เชื่อตั้งแต่แรก จนกว่าจะเห็นผลงาน

Last updated: 2 ต.ค. 2560  |  2395 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ทำไม ผมไม่เชื่อตั้งแต่แรก จนกว่าจะเห็นผลงาน

ผมได้พูดคุยกับเพื่อนๆ ในวงเหล้าเล็ก ๆ และจะอัพเดทว่า 

เป็นงัยบ้าง 

ตอนนี้ทำอะไรอยู่

เพื่อนแต่ละคนก็แย่งกันเล่า อาจจะเป็นเพราะพิษแอลกอฮอร์ เข้าสู่ร่างกาย (เลยทำให้พูดเยอะกว่าที่เป็นปกติ)

เพื่อนคนนึง เล่าว่า จะลาออกจากงานประจำ ไปเป็นชาวไร่ (เพื่อปลูกผลไม้ ที่อาจจะหาได้น้อยในพื้นที่ประเทศไทย) นั่นคือ เมล่อน

ผมไม่เชื่อแต่แรกว่าเขาจะไปทำอย่างนั้นได้ ก็เลยแซวต่อว่า ขายอย่างไร (เนื่องด้วยเขาอ่านหนังสือมา ถามคนที่มีประสบการณ์ เลยตอบว่า ขายเป็นกิโล) แบบนี้ก็รวยสุด ๆ อะดิ เพราะว่าเถานึง ออกลูกเพียบ คำตอบในตอนนั้น คือ เอาแค่เถาละลูก ที่เหลือตัดทิ้ง หรือ ไม่ก็ไปขายทำแกงส้ม เมล่อน (หากินไม่ได้ในร้านอาหารทั่วไป) ผมถึงกับอิ้ง

ผมเคยไปฟัง วิทยากร ท่านนึง เล่าให้ฟังว่า ผลไม้คัด (คัดสรร) ลูกที่ดีและสมบูรณ์ที่สุด จะเป็นผลไม้ที่ขายได้ราคาที่สุด เมื่อเทียบกับลูกที่บูด ๆ เบี้ยว หรือ ไม่สมบูรณ์

ยกตัวอย่าง (เมื่อนำมาพิสูจน์) การวางผลไม้บน เช้ล ติดกัน (ราคาต่างกัน ครึ่ง ๆ ) ปรากฏว่า ผลไม้ผลดี สามารถขายได้หมดเกลี้ยง ทั้ง ๆ ที่ลูกพิการ ยังอยู่เต็มเช้ล 

คำถาม ผลไม้บูด เบี้ยว ไม่สมบูรณ์ แม้กระทั่งลดราคาก็ไม่สามารถขายได้
คำตอบ คนส่วนใหญ่ มักมองรูปลักษณ์ภายนอก 

เวลาผ่านไป ก็มีการคิดค้น เพื่อแปรรูป เปลี่ยนสภาพ 
ผลไม้ดังกล่าวข้างต้น ผ่านขบวนการ แปรรูปผลไม้ นำผลไม้ไปคั้นเป็นน้ำ แล้วบรรจุขวดขาย

ปรากฎว่า ผลไม้ บูด เบี้ยว ไม่สมบูรณ์ กับราคาต่างกันแค่ 1 บาท (สามารถขายได้หมดเร็วกว่าผลไม้ผลดี)

การแปรรูป คือ จุดเปลี่ยน ของผลส้มพิการทับซ้อน

วันนี้ ผมแค่อยากบอกว่า (เริ่มแรก เราไม่รู้อะไรเลย) แล้วเราก็ลงมือทำ แบบนี้ผมเรียกว่า Learning by Doing เรียนไปด้วยทำไปด้วย

Business Model จะเกิดขึ้นตอนไหน หรือ เมื่อไหร่ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบตั้งแต่แรก ค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป และ แปรเปลี่ยนสภาพ เมื่อคิดว่าถึง จุดเปลี่ยน

ผมกำลังเล่าเรื่องใหม่ ๆ ที่ยังไม่ค่อยมีใครทำ หรือ มีทำก็น้อย เพื่อขบวนการ ที่ผมเรียกมันว่า “กลับหัวคิด ธุรกิจเปลี่ยน”

หลายต่อหลายครั้งที่เกิดสภาวะ “จุดเสี่ยง” ชนิดแบบ 50:50 (พอมาถึงทางแยกแบบนี้แล้ว เราควรจะไปต่อ หรือ ควรจะหยุด) ภาวะผู้นำ และ การติดสินใจ จึงมีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง และ ทัศนคติ มุมมอง จะเป็นแรงช่วยผลักดัน 

ผมกำลังจะบอกว่า มันไม่มีถูกหรือผิด เราควรจะประเมินความเสี่ยงของเราระดับไหน มากกว่า เราทำได้วันนี้ วันข้างหน้า อาจจะไม่เหมือนเมื่อวันวาน จึงต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับสภาวะปัจจุบัน

อุปสรรคไม่ใช่...ร่องรอย ของความล้มเหลว  
แต่..เป็นริ้วรอยแห่งความสำเร็จ...

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้