ทำไม เวลาทำงานอยู่ ต้องถามว่าเหนื่อยไหม

Last updated: 2 ต.ค. 2560  |  2649 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ทำไม เวลาทำงานอยู่ ต้องถามว่าเหนื่อยไหม

แม่ถาม : มาตลาดกับแม่ทุกวันเหนื่อยไหม
ผมตอบแบบไม่ต้องคิด แบบเด็ก ๆ : เหนื่อยมากครับ แล้วแม่ล่ะ "ไม่เหนื่อยเลย" (ตอบด้วยหน้าตายิ้มแย้ม) ตอบมาได้ไม่เหนื่อย สุดๆ ล่ะ แล้วมันก็ผ่านไป

ทำไม ทำไม ทำไม แม่ถึงตอบแบบนี้ทุกครั้ง

จากบ้านนอกสู่ระบบความคิด มันช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คำว่า การตลาด หรืออะไร ไม่ใช่ตลาดสด รึ รู้จักแต่ คำว่า "ขาย"

ผมมารู้จักคำว่า การตลาด ตอนโต (หรือแก่) นี่แหล่ะ ผมถึงเรียกว่า สิ่งมหัศจรรย์

ผมอยู่ตลาดสดตั้งแต่เด็ก แม่ขาย ผมขาย แม่บอกราคาผมตั้งแต่นั่งอยู่บนรถมาด้วย (ทำไมต้องวางแผนกันขนาดนั้น เอาเวลาไปนอนดีกว่าไหม) และก็บอกแบบเนี๊ยะทุกวัน จำไม่ได้ก็บ้าแล้ว ทำไม ทำไม ทำไม ราคาของไม่เท่ากันสักวันเหรอ ก็เห็นขายแต่ของประเภทเดียวกัน เหมือนกัน ตรรกะ ราคาต้องเท่ากันดิ

ระหว่างนั่งขายของ ผู้มีพระคุณ ก็มาซื้อ เอาอันนี้ เอาอันนั้น ผมก็ขาย แต่ที่คุยราคากับแม่บนรถ ลืมหมดแล้ว หันไปถามแม่ว่า ราคาเท่าไหร่ คำตอบ บรา...บรา...บรา.....

ขากลับ ผมถามแม่ว่า ทำไม ทำไม ทำไม ของอย่างเดียวกัน ขายราคาไม่เท่ากัน แม่จะรู้ได้งัย ราคาไหนเป็นราคาไหน (ความจำดีกว่างั้น) หรือ ราคาเอาตามใจแม่ ทั้ง ๆ ที่ของก็เหมือนกัน

คำตอบ นี่มันคือ ตลาดสด
ตลาดสด แล้วงัย

ผู้มีพระคุณ จะมาจ่ายตลาดสดเช้ามืด ช่วงทำงานการขายจะมีเวลาเดียว เช้า ๆ สายๆ ก็เลหลัง กำไรน้อย หรือ เท่าทุนได้ (หรืออาจจะขาดทุน แม่ไม่บอก) นี่คือที่มา

ทำไม ผมถึงมาเรียกเรียนการตลาด (หัวไม่ดีไช่ไหม) อะไรคือหัวดี หัวไม่ดี แม่เป็นแม่ค้า จะมาแนะนำอะไรได้มากกว่าขายของ

ผมเข้าใจการซื้อมา ขายไป กำไร คือ ผลต่าง นักการขาย การตลาดที่ดี คือ การหาผลต่าง ที่มีประสิทธิภาพ

เมื่อจบการตลาด แล้ว เราจะทำงาน ลักษณะไหน (เริ่มใกล้จบ เริ่มมีโจทย์) อย่านะ อย่านะ ให้กลับไปขายของกับแม่ ไม่ ไม่ ไม่ แน่นอน (เมื่อมีคำตอบเป็นอย่างอื่น) เราจึงต้องเลือก

ผมเริ่มรู้สึกแล้วว่า โจทย์ที่อยากสำหรับผม เราจะขายอะไรถึงจะมีผู้ซื้อ (แค่คิดก็ปวดหัว)

ธุรกิจกระแส (ขายได้แน่นอน) แต่เวลาช่วงธุรกิจมันสั้น
ธุรกิจแฟรนไชส์ (ขายได้แน่นอน) ไม่ปวดหัวบริหารทุน
ธุรกิจซื้อมาขายไป (ขายได้แน่นอน) หาอะไรใหม่ๆ มาขาย

ผมเลือกทำ ลองผิดลองถูก มาทั้งชีวิต ผลคือ สนุกดี รายได้ดี ล้มเหลวดี รสชาดชีวิตสุด ๆ (แต่ขึ้นอยู่กับ ช่วง ช่วง หลินหุ้ย ของชีวิตจริงๆ) อะไรของธุรกิจนักหนา (ข้ออ้าง ข้อแม้ตามมา) เศรษฐกิจ บางล่ะ บรา..บรา...บรา....

ผมเลือกสิ่งที่ว่าดีและใช่ที่สุดในปั้นปลายชีวิต คือ ธุรกิจ ทางเลือก หรือ Business Model (โครงสร้างธุรกิจ ขนาดเล็ก Start UP หรือ SME) ผ่านขบวนการที่เล่ามาทั้งหมด

ตั้งแต่เริ่มหาของ จนถึง ซื้อขายกันได้เป็นปกติ

ขบวนการทั้งหมด มีความซับซ้อน ซ่อนเล้น อยู่มาก แต่จะตีโจทย์กันอย่ง ขึ้นอยู่กับตัวเรา วิธีค้นหา วิธีคิด วิธีทำ ผ่านความเข้าใจและ จินตนาการ ที่ถ่องแท้

บทสรุป แค่ กล้าคิด ชีวิตก็เปลี่ยน
ตัวคุณมีคุณค่าอยู่แล้ว อยู่ที่คุณจะรู้จักดึงมันออกใช้ได้รีเปล่า

Next วาระถัดไป
ผมจะเล่าตอนต่อไป "ไม่มีก็ต้องหา ไม่มาก็ต้องไป" เป็นคำพูดที่ผมได้ยินและพูดติดปากเสมอ จากผู้หญิงที่เรียกว่า แม่เพื่อน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้